การแก้ปัญหาลง windows ไม่ผ่าน
ติดตั้งโปรแกรมหรือไดรเวอร์ไปแล้วเข้าวินโดวส์ไม่ได้
ลง โปรแกรม Norton AntiVirus ไปแล้ว พอบูตเครื่องขึ้นมาอีกทีก็เข้าวินโดวส์ไม่ได้แล้ว ปัญหาทำนองนี้พบค่อนข้างบ่อยมาก อาจจะเนื่องมาจากในบ้านเราผู้ใช้คอมพิวเตอร์ ส่วนใหญ่จะใช้โปรแกรมเถื่อนที่มีขายอยู่ทั่วไปตามห้างไอที ทำให้บางครั้งในขั้นตอนการผลิตซีดีไม่ได้มาตรฐานไฟล์บางตัวเลยก๊อปปี้มาไม่ ครบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผ่นซีดีโปรแกรมที่เป็นแผ่น รวมหลายสิบโปรแกรมนั้น ค่อนข้างจะมีปัญหาเยอะมาก เมื่อผู้ใช้ซื้อไปติดตั้งจึงมีปัญหาตามมาหรือบางโปรแกรม เช่น Norton AntiVirus ชอบที่จะเข้าไปขอใช้ไฟล์ระบบที่มีนามสกุล DLL เมื่อมีการติดตั้งไม่สมบูรณ์เลยทำให้ ไม่สามารถเข้าวินโดวส์ได้
อีกสาเหตุหนึ่งก็เนื่องมาจากการลงไดรเวอร์นั่นเอง ไดรเวอร์บางตัวก็มักมีปัญหากับระบบปฏิบัติการและชอบเข้าไปยุ่งกับไฟล์ ระบบทำให้วินโดวส์พังก็มีให้เห็นมาแล้ว สำหรับแนวทางในการแก้ปัญหาของ ช่างคอมพิวเตอร์นั้น ให้สอบถามพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้เสียก่อน หากพบว่าได้มีการติดตั้งโปรแกรม หรือไดรเวอร์ลงไปหลังจากนั้นก็ทำให้บูตเข้าวินโดวส์ไม่ได้อีกเลย ให้เราสันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจเกิดจากสาเหตุการลงโปรแกรมและไดรเวอร์ไม่ สมบูรณ์จนอาจทำให้ระบบไม่สามารถบูตได้ โดยเราสามารถแก้ปัญหาได้ดังนี้
ให้ บูตเครื่องเข้าสู่ Safe Mode เพราะการเข้าสู่ Safe Mode จะเป็นการเข้าสู่วินโดวส์โดยที่ไม่ จำเป็นต้องใช้ไดรเวอร์หรือไฟล์บางตัว จากนั้นให้เราเข้าไปลบโปรแกรมหรือไดรเวอร์ที่ทำให้เกิดปัญหาออกไปจากเครื่อง ให้หมดเกลี้ยงอย่าให้เหลือซาก จากนั้นจึงบูตเครื่องเข้าสู่วินโดวส์ได้ตามปกติ
ลง โปรแกรม Norton AntiVirus ไปแล้ว พอบูตเครื่องขึ้นมาอีกทีก็เข้าวินโดวส์ไม่ได้แล้ว ปัญหาทำนองนี้พบค่อนข้างบ่อยมาก อาจจะเนื่องมาจากในบ้านเราผู้ใช้คอมพิวเตอร์ ส่วนใหญ่จะใช้โปรแกรมเถื่อนที่มีขายอยู่ทั่วไปตามห้างไอที ทำให้บางครั้งในขั้นตอนการผลิตซีดีไม่ได้มาตรฐานไฟล์บางตัวเลยก๊อปปี้มาไม่ ครบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผ่นซีดีโปรแกรมที่เป็นแผ่น รวมหลายสิบโปรแกรมนั้น ค่อนข้างจะมีปัญหาเยอะมาก เมื่อผู้ใช้ซื้อไปติดตั้งจึงมีปัญหาตามมาหรือบางโปรแกรม เช่น Norton AntiVirus ชอบที่จะเข้าไปขอใช้ไฟล์ระบบที่มีนามสกุล DLL เมื่อมีการติดตั้งไม่สมบูรณ์เลยทำให้ ไม่สามารถเข้าวินโดวส์ได้
อีกสาเหตุหนึ่งก็เนื่องมาจากการลงไดรเวอร์นั่นเอง ไดรเวอร์บางตัวก็มักมีปัญหากับระบบปฏิบัติการและชอบเข้าไปยุ่งกับไฟล์ ระบบทำให้วินโดวส์พังก็มีให้เห็นมาแล้ว สำหรับแนวทางในการแก้ปัญหาของ ช่างคอมพิวเตอร์นั้น ให้สอบถามพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้เสียก่อน หากพบว่าได้มีการติดตั้งโปรแกรม หรือไดรเวอร์ลงไปหลังจากนั้นก็ทำให้บูตเข้าวินโดวส์ไม่ได้อีกเลย ให้เราสันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจเกิดจากสาเหตุการลงโปรแกรมและไดรเวอร์ไม่ สมบูรณ์จนอาจทำให้ระบบไม่สามารถบูตได้ โดยเราสามารถแก้ปัญหาได้ดังนี้
ให้ บูตเครื่องเข้าสู่ Safe Mode เพราะการเข้าสู่ Safe Mode จะเป็นการเข้าสู่วินโดวส์โดยที่ไม่ จำเป็นต้องใช้ไดรเวอร์หรือไฟล์บางตัว จากนั้นให้เราเข้าไปลบโปรแกรมหรือไดรเวอร์ที่ทำให้เกิดปัญหาออกไปจากเครื่อง ให้หมดเกลี้ยงอย่าให้เหลือซาก จากนั้นจึงบูตเครื่องเข้าสู่วินโดวส์ได้ตามปกติ
วิธีแก้ไขเมื่อตัว Boot Windows เสียหายให้กลับมาใช้งานใหม่ได้
หลายๆ ท่านคงเคยเจออาการที่บูทเครื่องเข้าวินโดไม่ได้ ซึ่งอาจเกิดมากจากหลายๆ สาเหตุ
สาเหตุนึงคือตัวช่วยบูตได้รับความเสีย แล้วจะแก้ไขอย่างไร ต้องลงวินโดใหม่อย่างเดียวหรือ
ลองมาดูวิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นกันครับ เอามาฝากเผื่อมีประโยชน์ในภายหน้า
ถ้า ตัวบูต Windows เสียหายทำอย่างไรถึงจะให้กลับมา บูตเครื่องได้ใหม่ (Window95,98,Me,2000,XP)
ถ้า ตัวบูต Windows 95 เสียหาย
เราสามารถแก้ไขได้โดยนำแผ่นบูต Window95 มาซ่อมแซมได้โดย
บูตแผ่น StartUP Windows95 มาบูตเครื่อง เมื่อขึ้นเครื่องหมายรับคำสั่ง A:> ให้พิมพ์คำสั่งดังนี้
A:> attrib -s -r -h c:\msdos.sys
A:> copy C:\msdos.sys C:\msdos.bak
A:>sys c:
A:>copy c:\msdos.bak C:\msdos.sys
เมื่อเสร็จแล้วให้บูตเครื่องอีกครั้งด้วยฮาร์ดดิสก์ (เอาแผ่น StartUp95 ออก)
ถ้า เป็น Window98 เสียหาย
เราสามารถแก้ไขได้โดยนำแผ่นบูต Window98 มาซ่อมแซมได้โดย
บูตแผ่น StartUP Windows98 มาบูตเครื่อง เมื่อขึ้นเครื่องหมายรับคำสั่ง A:> ให้พิมพ์คำสั่งดังนี้
A:>sys c:
เมื่อเสร็จแล้วให้บูตเครื่องอีกครั้งด้วยฮาร์ดดิสก์ (เอาแผ่น StartUp98 ออก)
ถ้า เป็น WindowMe เสียหาย
เราสามารถแก้ไขได้โดยนำแผ่นบูต WindowMe มาซ่อมแซมได้โดย
บูตแผ่น StartUP WindowMe มาบูตเครื่อง เมื่อขึ้นเครื่องหมายรับคำสั่ง A:> ให้พิมพ์คำสั่งดังนี้
A:>sys c:
เมื่อเสร็จแล้วให้บูตเครื่องอีกครั้งด้วยฮาร์ดดิสก์ (เอาแผ่น StartUp WinMe ออก)
ถ้า เป็น Window2000 หรือ WindowsXP เสียหาย
เราสามารถแก้ไขได้ แต่ขั้นตอนจะยุ่งยากกว่ามาก โดยนำแผ่นติดตั้ง
Window2000 มาซ่อมแซมตัวบูตได้โดยให้เราทำเหมือนจะติดตั้ง Window2000 ใหม่แต่ไม่ได้ติดตั้งจริง
เมื่อ ตัวติดตั้ง Window2000 Copy แฟ้มข้อมูลจาก CD ลง
ฮาร์ดดิสก์เสร็จแล้วจะให้เรา Restart เครื่องใหม่ เราก็ทำตามนั้น เมื่อบูตเครื่องใหม่ให้เราเลือกเมนูเดิม
ที่ เราเคยเลือก(อย่าช้าเพราะตัวติดตั้ง Window2000 จะเลือกเมนู Choice อื่นให้ เราโดยอัตโนมัติ) เมื่อเลือกเสร็จกด Enter
ก็ทำให้เราสามารถใช้ Window2000ได้ตามปกติ เมื่อเข้า Window2000 แล้วให้เราทำการลบ โฟลเดอร์ที่ตัวติดตั้ง
Window2000 ทำไว้(มันจะถูกซ่อนไว้) ทิ้งเสียเพื่อไม่ให้เปลือง พื้นที่ฮาร์ดิสก์แล้วให้เรา แก้ไขแฟ้ม boot.ini ที่ C:\ (มันจะถูกซ่อนไว้)
ให้แก้ไข บรรทัด default ใน [boot loader] เป็น default=multi(0)disk(0)rdisk(0)partition(1)\WINNT
แล้วลบบรรทัดใน [operating systems] ที่ มีข้อความเกี่ยวกับ Window2000 Setup
ทิ้งทั้งบรรทัด แล้วให้เราทำการบันทึกแฟ้ม boot.ini เราก็จะสามารถบูตเข้า Window2000 ได้ตามปกติ
หมายเหตุ แฟ้ม boot.ini จะถูกซ่อน ไม่สามารถเขียนได้แต่เราสามารถแก้ได้โดยใช้คำสั่งที่ Command Prompt โดย
พิมพ์คำสั่งดังนี้ C:>attrib -r -s -h c:\boot.ini เท่านี้ก็จะสามารถแก้ไขแฟ้ม boot.ini ใน C:\boot.ini ได้
เมื่อแก้ไขเสร็จควร SET ค่าของแฟ้ม boot.ini กลับโดยใช้คำสั่ง C:>attrib +r +h c:\boot.ini
หลายๆ ท่านคงเคยเจออาการที่บูทเครื่องเข้าวินโดไม่ได้ ซึ่งอาจเกิดมากจากหลายๆ สาเหตุ
สาเหตุนึงคือตัวช่วยบูตได้รับความเสีย แล้วจะแก้ไขอย่างไร ต้องลงวินโดใหม่อย่างเดียวหรือ
ลองมาดูวิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นกันครับ เอามาฝากเผื่อมีประโยชน์ในภายหน้า
ถ้า ตัวบูต Windows เสียหายทำอย่างไรถึงจะให้กลับมา บูตเครื่องได้ใหม่ (Window95,98,Me,2000,XP)
ถ้า ตัวบูต Windows 95 เสียหาย
เราสามารถแก้ไขได้โดยนำแผ่นบูต Window95 มาซ่อมแซมได้โดย
บูตแผ่น StartUP Windows95 มาบูตเครื่อง เมื่อขึ้นเครื่องหมายรับคำสั่ง A:> ให้พิมพ์คำสั่งดังนี้
A:> attrib -s -r -h c:\msdos.sys
A:> copy C:\msdos.sys C:\msdos.bak
A:>sys c:
A:>copy c:\msdos.bak C:\msdos.sys
เมื่อเสร็จแล้วให้บูตเครื่องอีกครั้งด้วยฮาร์ดดิสก์ (เอาแผ่น StartUp95 ออก)
ถ้า เป็น Window98 เสียหาย
เราสามารถแก้ไขได้โดยนำแผ่นบูต Window98 มาซ่อมแซมได้โดย
บูตแผ่น StartUP Windows98 มาบูตเครื่อง เมื่อขึ้นเครื่องหมายรับคำสั่ง A:> ให้พิมพ์คำสั่งดังนี้
A:>sys c:
เมื่อเสร็จแล้วให้บูตเครื่องอีกครั้งด้วยฮาร์ดดิสก์ (เอาแผ่น StartUp98 ออก)
ถ้า เป็น WindowMe เสียหาย
เราสามารถแก้ไขได้โดยนำแผ่นบูต WindowMe มาซ่อมแซมได้โดย
บูตแผ่น StartUP WindowMe มาบูตเครื่อง เมื่อขึ้นเครื่องหมายรับคำสั่ง A:> ให้พิมพ์คำสั่งดังนี้
A:>sys c:
เมื่อเสร็จแล้วให้บูตเครื่องอีกครั้งด้วยฮาร์ดดิสก์ (เอาแผ่น StartUp WinMe ออก)
ถ้า เป็น Window2000 หรือ WindowsXP เสียหาย
เราสามารถแก้ไขได้ แต่ขั้นตอนจะยุ่งยากกว่ามาก โดยนำแผ่นติดตั้ง
Window2000 มาซ่อมแซมตัวบูตได้โดยให้เราทำเหมือนจะติดตั้ง Window2000 ใหม่แต่ไม่ได้ติดตั้งจริง
เมื่อ ตัวติดตั้ง Window2000 Copy แฟ้มข้อมูลจาก CD ลง
ฮาร์ดดิสก์เสร็จแล้วจะให้เรา Restart เครื่องใหม่ เราก็ทำตามนั้น เมื่อบูตเครื่องใหม่ให้เราเลือกเมนูเดิม
ที่ เราเคยเลือก(อย่าช้าเพราะตัวติดตั้ง Window2000 จะเลือกเมนู Choice อื่นให้ เราโดยอัตโนมัติ) เมื่อเลือกเสร็จกด Enter
ก็ทำให้เราสามารถใช้ Window2000ได้ตามปกติ เมื่อเข้า Window2000 แล้วให้เราทำการลบ โฟลเดอร์ที่ตัวติดตั้ง
Window2000 ทำไว้(มันจะถูกซ่อนไว้) ทิ้งเสียเพื่อไม่ให้เปลือง พื้นที่ฮาร์ดิสก์แล้วให้เรา แก้ไขแฟ้ม boot.ini ที่ C:\ (มันจะถูกซ่อนไว้)
ให้แก้ไข บรรทัด default ใน [boot loader] เป็น default=multi(0)disk(0)rdisk(0)partition(1)\WINNT
แล้วลบบรรทัดใน [operating systems] ที่ มีข้อความเกี่ยวกับ Window2000 Setup
ทิ้งทั้งบรรทัด แล้วให้เราทำการบันทึกแฟ้ม boot.ini เราก็จะสามารถบูตเข้า Window2000 ได้ตามปกติ
หมายเหตุ แฟ้ม boot.ini จะถูกซ่อน ไม่สามารถเขียนได้แต่เราสามารถแก้ได้โดยใช้คำสั่งที่ Command Prompt โดย
พิมพ์คำสั่งดังนี้ C:>attrib -r -s -h c:\boot.ini เท่านี้ก็จะสามารถแก้ไขแฟ้ม boot.ini ใน C:\boot.ini ได้
เมื่อแก้ไขเสร็จควร SET ค่าของแฟ้ม boot.ini กลับโดยใช้คำสั่ง C:>attrib +r +h c:\boot.ini
ข้อความผิดพลาดที่2Improper shut down detected, Checking disk for errore
ข้อความนี้แจ้งว่าพบปัญหาผิดพลาดในขั้นตอนการชัตดาวน์ อาจเกิดจากการผู้ใช้ปิดเครื่องไม่ถูกวิธี ทำให้ระบบชัตดาวน์มีปัญหา วิธีแก้ไขคือให้รอสักพักแล้วค่อยกดปุ่ม Esc ระบบก็จะกลับเป็นปกติ ดังนั้นหาก ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก คราวหลังก็ควรปิดคอมพิวเตอร์ให้ถูกวิธีด้วยการชัตดาวน์เครื่องก่อนเสมอ
ข้อความผิดพลาดที่3 Warning Windows has detected a Registry / configuration error. Choose Safe mode to start Windows with minimal set of drivers
ข้อความนี้แจ้งว่าพบปัญหาผิดพลาดในรีจิสทรีของวินโดวส์ โดยวินโดวส์จะแนะนำให้เราเข้าไปใน Safe mode เพื่อแก้ปัญหา สำหรับการแก้ปัญหาข้อความนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องหนักหนาและเสี่ยงมากทีเดียว เนื่องจากว่ารีจิสทรีเป็นฐานข้อมูลสำคัญที่เก็บรายละเอียดและค่าต่าง ๆ ของวินโดวส์ไว้ หากมีปัญหาในส่วนนี้ ต้องอาศัยการแก้ไขอย่างรอบคอบ ไม่อย่างนั้นอาจทำให้ระบบพังได้ แนะนำว่าให้แก้ปัญหาโดยการติดตั้งวินโดวส์ใหม่ทับลงไปเพื่อให้รีจิสทรีใหม่ ทับรีจิสทรีเก่า หรือให้บูตเครื่องด้วยแผ่นบูตแล้วพิมพ์คำสั่ง Scanreg / restore เพื่อเป็นการย้อนกลับไปใช้รีจิสทรีที่วินโดวส์ได้แบ็คอัพเก็บไว้ 5 วันหลังสุด ก็ให้เราเลือกวันที่คิดว่ายังไม่เกิดปัญหา เพียงเท่านี้ก็จะสามารถแก้ปัญหานี้ได้ครบ ( วิธีหลังนี้อย่าลืมแบ็คอัพข้อมูลสำคัญๆ ไว้เสียก่อนละ )
ข้อความผิดพพลาดที่ 4 : Explorer has caused an error in Kermel132.dll
อความนี้แจ้งว่าระบบมีความผิดพลาดในไฟล์ Kernel132.dll ทำให้ผู้ใช้อาจไม่สามารถเข้าไปใน Control panel ได้ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นบนวินโดวส์ Me วิธีแก้ปัญหาคือให้บูตเครื่องใหม่แล้วเข้าไปที่
Safe Mode แล้วทำตามขั้นตอนดังนี้
1. ให้ค้นหาไฟล์ที่มีนามสกุล *.cpl โดยเข้าไปค้นหาที่โปรแกรม Search, For Files Or Folders
2. เมื่อพบไฟล์ .cpl แล้ว ซึ่งอยู่ที่ WINDOWS\SYSTEM ให้เปลี่ยนนามสกุลเป็น .Old ทีละไฟล์ แล้วลองเข้าไปทดสอบดูว่าเข้า Control panel ได้หรือยังถ้า ยังไม่ได้ให้กลับไปเปลี่ยนเป็นไฟล์ตัวอื่น จนกว่าจะสำเร็จ เมื่อสำเร็จแล้วเราก็จะสามารถรู้ได้ว่าไฟล์ตัวไหนที่เป็นต้นเหตุให้เกิด ปัญหา
3. ให้กลับไปเปลี่ยนนามสกุลไฟล์ทุกไฟล์ให้กลับเป็นเหมือนเดิม ยกเว้นไฟล์ที่เป็นต้นเหตุ จากนั้นบูตเครื่องขึ้นใหม่
ข้อความนี้แจ้งว่าดิสก์ไดรฟ์ไม่สามารถใช้งานได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้มีการใส่แผ่นดิสก์ลงไปในช่องดิสก์ไดรฟ์แล้ว สำหรับปัญหานี้อาจเกิดจากผู้ใช้ลืมใส่แผ่นดิสก์ลงไปในช่องดิสก์ไดรฟ์ แต่หากได้มี การใส่แผ่นลงไปแล้วปัญหานี้อาจเกิดจากแผ่นดิสก์เสียหรือดิสก์ไดรฟ์มีปัญหา ไม่สามารถใช้งานได้ให้เราทดสอบแผ่นดิสก์โดยนำไปใช้กับเครื่องอื่นหากสามารถ ใช้ได้ นั่นแสดงว่าเป็นที่ดิสก์ไดรฟ์ต้องถอดมาซ่อมหรือเปลี่ยนเป็นตัวใหม่ก็จะ สามารถแก้ปัญหานี้ได้
ข้อความนี้แจ้งว่าหน่วยความจำที่เหลืออยู่ในระบบไม่เพียงพอในการเปิดโปรแกรม ให้แกจากโปรแกรมแล้วลองเปิดใหม่อีกครั้ง สำหรับสาเหตุของปัญหานั่นคือหน่วยความจำหรือแรมของเครื่องไม่พอนั่นเอง วิธีแก้ปัญหาแบบถาวร ( แต่ต้องเสียเงิน ) ก็คือ ให้ผู้ใช้ซื้อแรมมาติดตั้งเพิ่ม หรือวิธีแก้แบบชั่วคราวก็คือ ในขณะใช้งานแนะนำให้ผู้ใช้ปิดโปรแกรมที่ไม่จำเป็นลงไปบ้าง โดยเฉพาะโปรแกรมที่ทำงานอยู่เบื้องหลังโดยที่เราไม่ได้เปิดขึ้นมาใช้งาน ให้สังเกตจากบริเวณ System Tray จะมีไอคอนของโปรแกรมนั้นๆ อยู่ ให้จัดการปิดให้หมดหรือโปรแกรมประเภทที่ชอบกินแรม ( Resource Leak ) ซึ่งโปรแกรมพวกนี้แม้ว่าจะปิดโปรแกรมไปแล้วก็ยังไม่ยอมคืนหน่วยความจำกัลบมา สู่ระบบ ซึ่งเราสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ว่าระบบของเราเหลือ รีซอร์สเท่าไหร่โดยคลิกขวาที่ My Computer จากนั้นคลิกแท็ป Performance ดูที่ System Resource ว่าเหลือรีซอร์สกี่เปอร์เซ็นต์ หากต่ำกว่าครึ่งก็ให้ปิดโปรแกรมแล้วบูตเครื่องขึ้นมาใหม่โปรแกรมเหล่านั้นก็ จะคืนแรมกลับมาเหมือนเดิม
ข้อความผิดพลาดนี้จะแจ้งขึ้นมาว่าเกิดความผิดพลาดจากการอ่านแผ่นซีดีในไดรฟ์ D: ( หรือไดรฟ์ที่เป็นซีดีรอม ) ซึ่งสาเหตุมาจากที่ผู้ใช้กดปุ่ม Eject เพื่อนำแผ่นซีดีรอมออกมาก่อนที่วินโดวส์ จะอ่านข้อมูลเสร็จ วิธีแก้ไขก็คือ ให้นำแผ่นใส่กลับไปเหมือนเดิมรอจนกว่าวินโดวส์จะอ่านข้อมูลจากแผ่นเสร็จแล้ว จึงค่อยนำออกมา โดยให้สังเกตจากหลอดไฟที่ตัวไดรฟ์ซีดีรอม ควรรอให้ไฟหยุดกระพริบเสียก่อน บางครั้งสาเหตุนี้ก็อาจเกิดจากการที่ผู้ใช้นำแผ่นซีดีที่ใช้งานไม่ได้แล้ว ใส่ลงไป หรือไม่ก็แผ่นซีดีสกปรกจนไดรฟ์ซีดี ไม่สามารถอ่านข้อมูลได้ ควรนำออกมาทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อนใส่กลับไปอีกครั้งหนึ่ง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น